ศึก ฟุตบอล อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ ที่ประเทศ ออสเตรเลีย เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ดวลกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้
-เริ่มเกมมา ทั้งสองทีมต่างผลัดกันเปิดเกมบุก จนกระทั่งนาที 21 กลายเป็น ราชันชุดขาว ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ แกเร็ธ เบล เปิดจากฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ คาริม เบนเซม่า ฮาล์ฟวอลเลย์เข้าไปอย่างสวยงาม-จากนั้นอีก 3 นาที มาดริด มาได้ประตูหนี 2-0 เมื่อ โทนี่ โครส ครอสบอลยาวเข้ามาในกรอบเขตโทษ แผงหลัง ซิตี้ พลาด หลุดมาถึง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ได้ยิงติดมือ โจ ฮาร์ท แต่บอลยังลอยเข้าประตูไป
-เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 43 มาดริด หนีห่าง 3-0 จากลูกเตะมุม อิสโก้ เปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษถึง เปเป้ ขึ้นโขกเต็มๆไม่มีเหลือ
-แต่ช่วงทดเจ็บ แมนฯซิตี้ มาได้จุดโทษเมื่อ เซร์คิโอ รามอส ไปตั้งใจทำแฮนด์บอล และเป็น ยาย่า ตูเร่ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่มีเหลือไล่มาเป็น 1-3 ก่อนที่จะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้
-เข้าสู่ครึ่งหลัง นาที 73 มาดริด มาได้ประตูฝัง 4-1 จากจังหวะที่ อิสโก้ ลากขึ้นมาจากฝั่งขวาก่อน เปิดบอลเข้าในกรอบให้ เดนิส เชอรีเชฟ แปเข้าไปไม่มีเหลือ
-จบเกม เรอัล มาดริด เอาชนะ แมนฯซิตี้ 4-1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม คว้าแชมป์ในทวีปนี้ไปครอง